ล้างแอร์รถยนต์แบบไม่ถอดตู้ ต่างจากล้างแบบถอดตู้ยังไง ล้างแบบไหนดี

ล้างแอร์รถยนต์แบบไม่ถอดตู้ ต่างจากล้างแบบถอดตู้ยังไง ล้างแอร์รถแบบไหนดี

คนที่มีรถยนต์ โดยปกติก็จะต้องมีการดูแลรถให้มีความสะอาด ใหม่เสมอ ซึ่งหนึ่งในวิธีนั้นคือ การล้างแอร์ แต่คุณหรือไม่ว่า ปกติแล้วการล้างแอร์รถยนต์จะมีวิธีการล้าง 2 แบบ คือ ล้างแอร์รถยนต์แบบไม่ถอดตู้ กับ ล้างแอร์แบบถอดตู้

แต่ทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันยังไง วันนี้มีดูความแตกต่างของการล้างแอร์แบบถอดตู้กับไม่ถอดตู้กัน แล้วจะเลือกล้างแอร์แบบไหนดี

ล้างแอร์รถยนต์สำคัญอย่างไร ?

ก่อนอื่นมาคุยกันก่อนว่า ทำไมถึงต้อง “ล้างแอร์รถยนต์”

ตู้แอร์ในรถยนต์ก็เหมือนกับตู้แอร์หรือแผงแอร์ในบ้านเรา เมื่อผ่านการใช้งานเป็นเวลานานเป็นปี ก็จะมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆ หากมีการสะสมของฝุ่นเป็นจำนวนมากๆก็จะทำให้ประสิทธิภาพความเย็นที่ออกมาจากห้องโดยสารลดลงหรือทำให้แอร์รถยนต์เราเย็นน้อยลงนั้นเอง ยิ่งในประเทศไทยเป็นเมืองร้อน เราจึงจำเป็นต้องล้างแอร์รถยนต์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง

ซึ่งการล้างนั้นจะแบบออกเป็น 2 แบบ คือ

  • ล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้
  • ล้างแอร์แบบถอดตู้

ล้างแอร์รถยนต์แบบไม่ถอดตู้ คืออะไร

การล้างแบบไม่ถอดตู้ คือ จะไม่มีการถอดรื้อคอนโซล รื้อตู้แอร์ หรือ แผงคอยด์ออกมาล้าง โดยจะกำหนดน้ำยาที่ใช้เฉพาะสำหรับการล้างเท่านั้น ซึ่งทำให้ราคาของการล้างจะไม่แพงมาก และรวดเร็ว จึงเหมาะกับรถที่มีล้างแอร์รถยนต์ปีละ1 ครั้ง หรือเหมาะกับรถที่ดูแลตู้แอร์รถยนต์เป็นประจำ เพราะถ้ารถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ล้างและสกปรกเกินไป การล้างวิธีนี้จะไม่สะอาดเท่าที่ควร ถ้าสกปรกมากควรล้างแบบถอดตู้

ล้างแอร์รถยนต์แบบถอดตู้ คืออะไร

ล้างแอร์รถยนต์แบบถอดตู้ จะต้องรื้อตู้แอร์ รื้อคอนโซล แล้วนำแผงคอยล์เย็นและแผงคอยล์ร้อนออกมาล้างเลย ซึ่งทำให้ต้องเติมน้ำยาแอร์ใหม่ และต้องเปลี่ยนไดเออร์กับวาล์วความดัน แต่วิธีนี้จะเป็นการล้างแอร์รถแบบสะอาดมาก สกปรกมากก็สะอาดได้ จึงทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าแบบไม่ถอดตู้ แต่ก็ใช้เวลาในการล้างนานกว่าเช่นกัน

เปรียบเทียบล้างแอร์แบบถอดตู้กับล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้

เปรียบเทียบล้างแอร์แบบถอดตู้ กับ ล้างรถยนต์แบบไม่ถอดตู้

ล้างแอร์รถยนต์แบบถอดตู้ ค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เฉลี่ยครั้งละ 4,000 – 5,000 บาท อีกทั้งต้องมีการถิดตู้ ถอดอะไหล่ทำให้ใช้เวลาหลายวัน และมีความเสี่ยงที่จะเกิดความ เสียหายต่ออะไหล่รถยนต์ที่ทำการถอด แต่จะได้ความสะอาดแบบ 100%

แต่ถ้าเป็นแบบไม่ถอดตู้ จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 799บาท และใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพราะไม่ต้องถอดอะไหล่ให้วุ่นวาย โอกาสที่จะเกิดความเสียหายเป็น 0% ความสะอาด 90-95% และที่ร้านของ Airpro มีโปรโมชั่นอบโอโซนและ ฉีดพ่นฆ่าเชื้อภายใน รถยนต์ให้แบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียแบบถอดตู้ กับ แบบไม่ถอดตู้

ข้อดี ล้างแอร์รถแบบถอดตู้

  • แอร์รถยนต์สะอาดได้ทุกซอกทุกมุม
  • สามารถตรวจสอบหรือเช็คสภาพของตู้ แอร์รถยนต์ ได้
  • สามารถประเมินอายุการใช้งานของ แอร์รถยนต์ ได้

ข้อเสีย ล้างแอร์รถแบบถอดตู้

  • ต้องยุ่งยากรื้อคอนโซล
  • ใช้เวลาทำความสะอาดนาน
  • มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าแบบไม่ถอดตู้
  • ถ้าเจอร้านใช้ผงซักฟอก โซดาไฟในการล้าง อาจมีกลิ่นผงซักฟอก แสดงว่ายังล้างออกมาไม่หมด อาจกัดกร่อนคอยล์เย็นได้และไม่ดีต่อระบบหายใจแน่นอน

ข้อดี ล้างแอร์รถแบบไม่ถอดตู้

  • ไม่ต้องรื้อคอนโซล
  • ทำความสะอาดง่ายกว่า
  • ค่าใช้จ่ายถูกกว่าแบบถอดตู้ แอร์รถยนต์
  • ใช้เวลาในการทำความสะอาดเร็วกว่าแบบถอดตู้ แอร์รถยนต์

ข้อเสีย ล้างแอร์รถยนต์แบบไม่ถอดตู้

  • แอร์ที่สกปรกมาก อาจจะล้างไม่สะอาดเท่าที่ควร
  • จำเป็นที่ต้องล้างแบบไม่ถอดตู้อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง

ตารางเปรียบเทียบ ล้างแอร์รถยนต์แบบไม่ถอดตู้ กับ ล้างแบบถอดตู้

ล้างแบบถอดตู้ ล้างแบบไม่ถอดตู้
ลักษณะ มีการถอดรื้อตู้แอร์ คอยด์ออกมาล้าง ไม่มีการถอดอะไหล่ใดๆ
เวลา ใช้ระยะเวลาในการล้างหลายวัน ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
ความสะอาด 100% 90 – 95 %
ราคา 4,000 – 5,000 บาท เริ่มต้น 799 บาท
ความเสี่ยง อะไหล่รถยนต์ที่ทำการถอดอาจะเสียหาย ไม่มีความเสี่ยงเสียหาย
ความถี่ในการล้าง ไม่ต้องล้างบ่อย ปีละ 1 ครั้ง

Similar Posts